Category Archives: Art

[Event] Cannes Lion For Good 2014 at Ma:D

CFG1-01

จบไปเรียบร้อยสำหรับอีเวนท์แรกในชีวิต Cannes Lion For Good 2014 ฟัง Feedback คร่าวๆก็ได้หายใจยาวๆพร้อมกับอุบานเบาๆว่า “รอดแล้วกรู!”

แรกเริ่มเดิมทีงานนี้มันเกิดขึ้นจากที่ผมเขียนบล็อกแนวแคมเปญเพื่อสังคมมาสักพักหนึ่ง ยิ่งเขียนก็ยิ่งรู้สึกว่าถ้าได้ลองทำแคมเปญแบบนี้ในเมืองไทยบ้าง มันก็น่าสร้างมีปรากฏการณ์ใหม่ๆให้กับสังคมบ้านเรา ไปเจอแคมเปญที่ไหนมาก็จะเอามาเล่าให้ทุกๆคนที่ได้เจอฟัง จนกระทั่งวันหนึ่ง พี่กิฟ (มาดี) ไม่รู้เกิดรำคาญหรือยังไงเพราะผมเล่าให้ฟังเกือบทุกวัน พี่เค้าก็เลยบอกว่างั้นลองจัดงานที่เล่าเรื่องแคมเปญดูดีมั้ย? เหมือนสวรรค์ดลใจ อะไรมันจะเข้าทางผมขนาดนี้!

ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวกันหน่อย ผมชื่อปืนครับ จบรัฐศาสตร์การระหว่างประเทศที่ธรรมศาสตร์ และการที่ผมสนใจงานแคมเปญด้านสังคมมันแทบจะไม่ได้เฉี่ยวกับเรื่องที่ผมเรียนมาเลยซักกะนิด ผมทำกราฟฟิกไม่เป็น พูดก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ก็ยังโชคดีที่ยังได้ตามงานโฆษณามาสม่ำเสมอ ก็เลยเริ่มเห็นเค้าว่างานโฆษณาหลายชิ้นถ้าเอามาปรับใช้กับประเด็นทางสังคมในบ้านเรา มันน่าจะไปได้ไกลและเปลี่ยนแปลงสังคมได้

สี่เดือนก่อนผมก็เลยเริ่มเขียนบล็อกที่รวมรวบเรื่องราวความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมและแคมเปญเพื่อสังคม และก็ทำเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ผมก็ได้สร้างเพจขึ้นมาเพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการกระจายข่าวสารแคมเปญทั้งหลายแหละ เชิญติดตามกันได้ที่ Naocrituss’s Blog ครับผม

———————————————————————————————————–

สำหรับงานในครั้งนี้ เราได้รับเกียรติจากพี่แกละ ซึ่งเป็น Associate Creative Director ที่ Ogilvy แล้วพี่เค้าก็เป็นครีเอทีฟเจ้าของผลงานที่ได้รับรางวัลคานส์ไลออน 3 ปีซ้อน เริ่มตั้งแต่ Hair for hope (โรงพยาบาลจุฬาภรณ์), Cut to build (OLFA) และ Return of the ashes (กรมป่าไม้) ได้รับรางวัล Bronze จากเวทีคานส์ไลออนปีล่าสุด

มาเข้าเนื้อหากันเลยดีกว่า!

งานชิ้นแรก เป็นแคมเปญที่เกี่ยวกับการค้ากามผ่านเว็บแคม ซึ่งกำลังเป็นกระแสระบาดไปทั่วโลก เค้าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร เชิญชมครับ

แคมเปญชิ้นที่สอง พูดถึงมหาเศรษฐีชาวบราซิลคนหนึ่งที่วันดีคืนดีเกิดนึกครึ้มอะไรก็ไม่รู้ แกบอกจะฝังเบนท์เล่ราคาครึ่งล้านเหรียญไว้ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน บอกว่าจะเอาไปใช้ตอนแกตาย แกทำแบบนั้นทำไม ไปดูกันครับ

แคมเปญที่ 3 พูดถึงเด็กน้อยที่เป็นมะเร็ง เราจะใช้วิธีแบบไหนที่ทำให้พวกเขาไม่ต้องรู้สึกว่าต้องอยู่สู้กับโรคร้ายนี้เพียงแค่คนเดียว

แคมเปญที่ 4 แคมเปญนี้ผมชอบมากที่สุด เพราะโดยปกติเวลาเราพูดถึงผู้ป่วยมะเร็งเมื่อไหร่ ภาพการทำแคมเปญในหัวจะปิ๊งขึ้นมาทันทีว่าต้องเป็นแนว “ดราม่า” แต่แคมเปญนี้ไม่ครับ เค้ากลับพลิกแคมเปญนี้ให้มี mood and tone แบบ  Feel Good ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจมาก ต้องดูอย่างแรง

แคมเปญต่อมา พูดถึงเรื่องผลผลิตทางการเกษตรในระบบอุตสาหกรรม ที่ต้องมีการคัดไซส์คัดน้ำหนัก คำถามคือ ผักผลไม้ที่ไม่ผ่านมาตรฐานหรือหน้าตาอัปลักษณ์ล่ะ มันหายไปไหน?

แคมเปญต่อไป เป็นเรื่องของการเชื่อมโยงกลุ่มคนสองกลุ่มที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวให้มาเกี่ยวกันได้อย่างน่าทึ่ง คนหนึ่งอยากฝึกภาษา อีกคนนึงอยากมีใครสักคนคอยคุยด้วย ในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกัน ส่วนตัวผมชอบวิดีโอ เค้าทำออกมาได้อบอุ่นมากจริงๆ

แคมเปญที่ 7 ลืมภาพการขอรับบริจาคเงินตามสะพานลอยไปได้เลย เพราะครั้งนี้ เพียงแค่สเต็ปเดียวคุณก็ได้ช่วยเหลือผู้อื่นแล้ว

แคมเปญต่อไป หุ่นที่เราเห็นตามร้านเสื้อผ้าดังๆทั้งหลาย นัยหนึ่งมันก็คือการตีกรอบเราว่าความสวยความหล่อมันต้องเป็นแบบนี้นะ แต่ลองมาดูแคมเปญนี้กันว่าเค้ามองความสวยความหล่อในแบบยังไง

แคมเปญที่ 9 ปลาสายพันธุ์หนึ่งที่กำลังทำลายระบบนิเวศในคาบสมุทรแคริบเบียน เราจะจัดการกับมันยังไงดี? บอกเลยเจ้าปลาสายพันธุ์นี้มันโคตรซวยจริงๆ เกิดมาแล้วเ_ือกอร่อย

แคมเปญที่ 10 มีเสืองฮือฮาเล็กน้อย ดูแล้วก็ได้แต่คิดว่าญี่ปุ่นนี่มันญี่ปุ่นจริงๆ เรื่องมันเกิดขึ้นในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งที่ไม่มีความโดดเด่นอะไรเลย จะมีก็แต่นาข้าว ชาวบ้านเค้าจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้อย่างไร เชิญรับชม

แคมเปญที่ 11 ปัญหาไม่มีน้ำสะอาดไว้ดื่มนับเป็นปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่งสำหรับประเทศกำลังพัฒนา เราจะทำยังให้เค้าได้เข้าใจถึงการเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดไปพร้อมๆกับผลิตน้ำสะอาดไปในตัวด้วย

แคมเปญที่ 12 เห็นกันเป็นประจำสำหรับป้ายจราจร แต่จะมีสักกี่คนที่ปฏิบัติตาม แคมเปญนี้เค้าจึงสร้างป้ายจราจรที่ดาเมจสูงมาก แบบที่ว่าดูปุ๊ปแล้วก็ร้องอ๋อทันที

แคมเปญที่ 13 เป็นไปได้ไหมว่า ป้ายบิลบอร์ดธรรมดาจะสร้างประโยชน์ได้มากกว่าให้มันยืนตากแดดเฉยๆ ?

แคมเปญต่อไป อันนี้มาแนวอีโมชั่นค่อนข้างสูงครับ ที่พูดถึงเรื่องคนเกาหลีเหนือที่พยายามลี้ภัยมาที่เกาหลีใต้ แต่สุดท้ายก็ต้องถูกส่งตัวกลับ แน่นอนว่าเหมือนกับส่งคนเข้าโรงฆ่าดีๆนี่เอง แคมเปญนี้เค้าก็เลยทำนิทรรศการที่สื่อให้เห็นว่า ยังมีคนที่เรายังมองไม่เห็นอยู่นะ

แคมเปญต่อไปนะครับ “รอยสัก” กับการอาบแดดมันเป็นความเท่ที่มาคู่กันของวันรุ่นบราซิล โดยหารู้ไม่ว่าการตากแดดนานๆจะทำให้เป็นมะเร็งผิวหนัง จะทำยังไงให้วัยรุ่นหัวแข็งพวกนี้ได้เห็นถึงปัญหา เชิญชมจ้ะ

แคมเปญที่ 16 เด็กที่เกิดมาตาบอดมักเสียเปรียบเด็กทั่วไป การสูญเสียความสามารถด้านการมองเห็นทำให้เด็กถูกปิดกั้นจินตนาการไปส่วนหนึ่ง แคมเปญนี้จะทำยังไงให้เด็กตาบอด ได้รับการเสริมสร้างจินตนาการแม้จะมองไม่เห็น

แคมเปญที่ 17 คนไร้บ้านมักจะเป็นผู้ที่ต้องรอรับความช่วยเหลือ แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเข้าได้สัมผัสประการณ์ของการเป็นผู้เลือกบ้าง

แคมเปญต่อไป คำพูดที่ไม่ทันยั้งคิดของพ่อแม่ อาจกลายเป็นอาวุธที่คอยทิ่มแทงจิตใจเด็ก ซึ่งหากเด็กไม่มีภูมิคุ้มกันมากพอก็มีแนวโน้มจะกลายเป็นอาชญากรในอนาคต แคมเปญนี้จะใช้วิธีการสื่อสารแบบไหน ลองไปดูกันครับ

แคมเปญที่ 19 ในแต่ละปี มหาสมุทรมักเป็นที่รองรับขยะจำนวนมหาศาลจากทั่วโลก จะดีแค่ไหนถ้ามันนำมาทำเป็นกางเกงยีนส์ได้!!

แคมเปญที่ 20 การทรมานนักโทษ กาค้าอาวุธ ความรุนแรงภายในครอบครัว เป็นเรื่องที่แอมเนสตี้ติดตามและต่อสู้มาตลอด แต่ในครั้งนี้เราจะสร้างสัญลักษณ์ที่ซ่อนสิ่งที่มีความหมายอยู่ได้อย่างไร

แคมเปญที่ 21 Mike Ebeling ได้แรงบันดาลใจจากการอ่านหนังสือ บินตรงไปยังแอฟริกาเพื่อสร้างห้องแล็บ 3D printer ให้กับชาวแอฟริกาที่พิการ ขอคารวะให้กับความมุ่งมั่น

แคมเปญที่ 22 การปลูกพืนออร์แกนิคและการเลี้ยงสัตว์แบบเปิดกำลังเป็นกระแส Chipotle ที่เป็นผู้นำผลิตอาหารที่ใช้แนวคิดนี้จึงได้สร้างสื่อที่ทำให้ผู้คนได้เห็นถึงความสำคัญ

แคมเปญแถม สะพาน Mapo ได้ชื่อว่าเป็นสะพานที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงที่สุดในเกาหลีใต้ เค้าจะใช้วิธีไหนที่จะทำให้คนเปลี่ยนความคิด และกลับไปหาคนที่เรารักที่รอเราอยู่ที่บ้าน

แคมเปญสุดท้าย แม่ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนักกีฬาชื่อก้องโลกทั้งหลาย

 

 

 

Tagged , , , , , , , , , , , , , , ,

UNHCR: Invisible people

UNHCR Invisible people

จากสถิติของ UNHCR มีการรายงานว่าทั่วโลกมี Refugee (ผู้หนีภัยทางการเมือง) มากถึง 35 ล้านคน และในจำนวนนั้นเป็นชาวเกาหลีเหนือถึง 300,000 คน ใครที่เคยติดตามข่าวระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้นี้ก็คงได้ยินผ่านหูมาบ้างว่าทั้งสองประเทศยังมีความขัดแย้งกันถึงขนาดเกาหลีเหนือยิงขีปนาอาวุธขู่เกาหลีใต้ ถึงแม้จะมีความพยายามเจรจาสันติภาพหลายครั้งแต่ก็ยังดูไม่คืบหน้าเท่าที่ควร

ตัดกลับมาที่ฉากผู้อพยพชาวเกาหลีเหนือกำลังพยายามข้ามด่านมายังเกาหลีใต้ เพราะไม่อยากทนอยู่ภายใต้อำนาจเผด็จการ ในขณะที่เกาหลีใต้ก็ไม่อยากรับเพราะกลัวจะมีสายลับแฝงตัวเข้ามา เรียกได้ว่าปัญหามันอุรังอุตังซับซ้อนมากเกินกว่าที่จะแก้ได้ภายในชั่วข้ามคืน

แต่ก็นั่นแหละครับ 3 แสนกว่าคน ใครมันจะไปสกรีนได้หมด มันก็ต้องมีหลุดเข้ามาบ้าง

หลุดเข้ามาได้แล้วเนียนๆก็ถือว่าเป็นโชคดี แต่ถ้าทางการเกาหลีใต้จับได้เมื่อไหร่ก็งานงอกทันที ซึ่งผมเข้าใจว่าถ้าถูกจับได้ก็มักจะถูกคุมตัวไปสอบสวนว่าเป็นสายลับมั้ย ถ้าไม่เป็นก็ส่งตัวกลับเกาหลีเหนือ โดยในแต่ละปีจะมีการส่งตัวกลับประมาณร้อยกว่าคน แล้วลองคิดภาพดูสิครับว่าทหารเกาหลีเหนือกำลังยืนรออยู่ที่ด่าน ทหารเกาหลีใต้เอาผู้ลี้ภัยกลับมาส่งในที่ที่เค้าอุตส่าห์หนีมา หลังจากข้ามพรมแดน ก็คงต้องแล้วแต่เวรแต่กรรมแล้วละครับ

เมื่อสถานการณ์มันชัดเจนขนาดที่เรียกว่า “เหมือนส่งคนเข้าโรงฆ่า” UNHCR ในเกาหลีใต้ก็เห็นว่าควรจะต้องทำอะไรบางอย่าง จึงได้ร่วมมือกับ CHEIL ซึ่งก็เป็นเอเจนซี่สัญชาติเกาหลีใต้มาทำแคมเปญเพื่อช่วยให้คนเกาหลีใต้ได้ฉุกคิดถึงว่า “การส่งชาวเกาหลีเหนือกลับประเทศ” เป็นเรื่องที่สมควรแล้วหรือ?

แคมเปญนี้เริ่มต้นด้วยการเชิญผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือที่ยังคงพำนักอยู่ในเกาหลีใต้มาร่วมแคมเปญ ด้วยการใช้อุปกรณ์สแกน 3D รูปร่างหน้าตาของผู้ลี้ภัย แล้วนำไปปรินท์ให้ออกมาเป็นหุ่นจำลองขนาดประมาณฝ่ามือ จากนั้นก็นำหุ่นเล็กๆที่เป็นตัวแทนชาวเกาหลีเหนือนั้นไปซ่อนไว้ตามจุดต่างๆในพิพิธภัณฑ์ เป็นกิมมิคการแสดงศิลปะแปลกใหม่ที่กระตุ้นให้ผู้เข้าชมต้องไปเดินค้นหาเอาเอง โดยในหุ่นแต่ละตัวก็จะมีวิดีโอบอกเล่าเรื่องราวความลำบาก ความรู้สึกกลัวและความรู้สึกอีกหลายอย่าง สิ่งที่พีคมากที่สุดคือหุ่นแต่ละตัวนั้นเป็นตัวแทนของคนจริงๆ ไม่ได้เต้าขึ้นมาจัดแสดงแบบเก๋ๆเท่านั้น

ในช่วงเวลาของการจัดแสดง 3 สัปดาห์ มีคนมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์นี้กว่า 48,000 คน และก็ได้โพสข้อความให้กำลังใจชาวเกาหลีเหนือผ่านหน้า FB ของ UNHCR Korea ซึ่งก็จะได้รับการส่งต่อจริงๆ มีคนที่ได้เห็นแคมเปญนี้มากกว่า 3.5 ล้านคน จากปัญหาที่แทบจะไม่มีคนเห็น มาตอนนี้ คนเกาหลีใต้ก็ได้ตระหนักแล้วว่าปัญหานี้มีอยู่จริง

Turning the invisible into the visible~

Advertising Agency: CHEIL WORLDWIDE Seoul, SOUTH KOREA

invisible people1 invisible people2 invisible people3 invisible people4 invisible people5

Tagged , , , , , , , , , , , , ,

Sahabat Anak & ISCO: Graffiteach – The Learning Walls

Graffiteach1

บรรยากาศบ้านเราที่มีเด็กเดินขายพวงมาลัยตามสี่แยกหรือเด็กที่นั่งขอทานตามสะพานลอย เห็นแล้วก็พลอยนึกสงสารว่าโตขึ้นมาพวกเขาจะเป็นผู่ใหญ่แบบไหน เขาจะได้เข้าโรงเรียนหรือเปล่า ก็ได้แต่คิด คนตัวเล็กๆอย่างเราจะไปทำอะไรได้ ถูกไหมครับ?

บรรยากาศ เด็กตามข้างถนนที่บ้านเราคงไม่ผิดแปลกไปจากอินโดนีเซีย เพื่อนร่วมชาติอาเซียนของเรา แต่สิ่งที่แตกต่างคือพวกเขาลงมือทำอะไรบางอย่างเพื่อให้เด็กๆเหล่านี้รู้สึก รักที่อยากจะเรียนหนังสือ ด้วยวิธีการสร้างสรรค์ ในเมื่อพวกเขารู้ว่าเด็กเหล่านี้ไปโรงเรียนไม่ได้ เขาก็เอาโรงเรียนเข้ามาหาเด็กๆแทนครับ

ศิลปิน กราฟฟิตี้ที่คนทั่วไปมักมองว่าเป็นพวกทำลายข้าวของ หรือดีขึ้นมาหน่อยก็อาจจะทำเป็นงานศิลปะ แต่ก็ไม่ได้สร้างประโยชน์ทางสังคม ผู้จัดแคมเปญเขาก็เชิญคนเหล่านี้มาช่วยกันเนรมิตบนเรียนวิชาภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และวิชาอื่นๆอีกมากมายมาไว้ตามกำแพงหรือตอม่อสะพาน เรียกได้ว่าเป็นบทเรียนแบบ Infographic ที่ผมเห็นแล้วยังรู้สึกอิจฉาเลย

จาก นั้นก็เชิญครูอาสามาช่วยกันสอนเด็กๆ พร้อมกับทำหนังสือรูปภาพ “Graffiteach” เพื่อให้เข้าถึงเด็กด้อยโอกาสในกลุ่มอื่นๆและเพื่อเป็นแบบฝึกหัดด้วย

แคมเปญนี้มีเด็กๆเข้าร่วมมากถึง 200 คน หนังสือรูปภาพถึงมือเด็กๆกว่า 800 เล่ม ไม่เลวเลยใช่ไหมครับ 🙂

ถึงแม้ว่าแคมเปญนี้จะไม่มีศักยภาพถึงขนาดดึงเด็กๆออกจากสภาพความเป็นอยู่ ปัจจุบันเพื่อผลักดันเข้าสู่ระบบการศึกษาได้ แต่อย่างน้อยที่สุด แคมเปญนี้ก็ได้ปลูกฝังนิสัยรักการเรียนรู้ให้กับเด็กตัวน้อย  ผมว่าโอเคเลยนะ 🙂

This project brought maths, science and English lessons to street children who don’t attend school through graffiti art and teacher-led lessons on the street.

Graffiteach6

Graffiteach2 Graffiteach3 Graffiteach4 Graffiteach5

Advertising Agency: The Campaign Palace Indonesia

 

 

Tagged , , , , , , , , ,

A Japanese Zen Rock Garden Made From Sweets

Zen Rock Garden Made From Sweets1

ดูแว้บเดียวก็รู้เลยว่านี่มันงานญี่ปุ่นชัดๆ แล้วก็ไม่ผิดจริงๆด้วย

ใครที่เคยไปญี่ปุ่นหรือเคยศึกษาวัฒนธรรมก็คงจะคุ้ยเคยกับ “สวนหินเซน” ที่เค้าบอกกันว่ามันมีปริศนาธรรม ถ้าอยากลองไขปริศนาก็ต้องลองไปนับหินดู ซึ่งมาจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าเค้าต้องการจะสื่ออะไร

แต่เอาละ เข้าเรื่องกันดีกว่า “สวนเซน” ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นเค้าบอกว่าเป็นที่มาของความสงบในจิต ปล่อยวางสิ่งที่อยู่ในใจ และอีกนัยก็คือการผ่อนคลายจากความเครียดทั้งหลายแหล่ สวนเซนนี้จะมีให้เห็นตามวัดเก่าแก่ทั้งหลาย อย่างที่เคยได้ยินบ่อยๆก็คือที่วัดเรียวอันจิ ซึ่งโดยส่วนประกอบหลักที่เห็นก็คือ หินใหญ่ พืชตระกูลมอส หินกรวดที่ไถคราดเป็นรูปน้ำหรือมหาสมุทร ซึ่งโดยรวมแล้วก็เหมือนกับงานประติมากรรมผสมผสานกับศิลปะการจัดวาง เอาง่ายๆให้จำว่าคอนเซปต์ของสวนเซนญี่ปุ่นมีไว้เพื่อ “สงบ ปล่อยวาง และผ่อนคลาย”

แต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดนึกครึ้มอะไร คุณพี่ Tomonori Saito กับคุณพี่ Shohei Sawada ซึ่งเป็นอาร์ตไดทั้งคู่เกิดพิสดารอยากทำสวนเซนแบบมินิขึ้นมา แล้วไม่ใช่มินิธรรมดา เป็นมินิแบบที่กินได้ซะด้วย

สวนเซนนี้ทำมาจากน้ำตาลยกเซ็ทเลยครับ เรียกได้ว่าถ้ากินทั้งก้อนหรือกวาดกินทั้งถาด เบาหวานขึ้นตาคงมาเคาะประตูหน้าบ้านแน่นอน ส่วนสีดำๆที่ทำเป็น Texture ของหินก่อนใหญ่นั้นก็ทำมาจากงาดำครับ โดยที่สวนเซ็นนี้ก็ไม่ธรรมดาอีก ต้องมีเรื่องเล่าให้ว้าวได้อยู่เสมอ เพราะสวนเซนมินิชุดนี้ถอดแบบมาจากสวนเซนวัดชินอันจิ ซึ่งเป็นวัดที่(เข้าใจว่า)อยู่ในการ์ตูน

ไม่รู้ทำไมญี่ปุ่นถึงได้เก่งเรื่องแบบนี้นัก ทำของน่ารักๆที่ดูแล้วมีเรื่องราว เห็นแล้วก็อิจฉา

เรียกได้ว่าสวนเซนมินิเซ็ทนี้ คนที่ได้ไปครอบครองได้ประโยชน์ถึงสองเด้ง เด้งแรกสงบ เด้งสองอร่อย แหม่ ฟินกันเลยทีเดียว

In Japan, Zen rock gardens are considered, if nothing else, a source of serenity and relaxation. Tokyo city dwellers will often travel all the way to Kyoto just to sample the revered gardens housed within local shrines. Another source of relaxation – enjoying Japanese sweets – doesn’t necessarily go hand-in-hand with rock gardens. But combining these two modern-day pleasures in an elegant design is the Shinan-ji Temple Rock Garden. Named after a fictional temple, the miniature rock garden is actually made from entirely edible ingredients that include black sesame cubes (shaped like rocks) and a bed of sugar (resembling sand).

The unique collaboration is the work of art directors Tomonori Saito and Shohei Sawada, who enlisted Japanese wagashi artisan Motohiro Inaba to help make their sweet garden a reality. The adorable wooden rake included in the set can not be eaten.

Zen Rock Garden Made From Sweets2 Zen Rock Garden Made From Sweets3 Zen Rock Garden Made From Sweets4

Tagged , , , , , ,

ปลูกดอกไม้ในปลอกแก๊สน้ำตา โหยหาสันติภาพระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์

flower on tear gas granade1

ใครที่เคยศึกษาหรือตามข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศคงจะผ่านตามาบ้างสำหรับเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ซึ่งทำสงครามแย่งดินแดนกันมานับ 70 – 80 ปี มีสงครามใหญ่และสงครามย่อยนับไม่ถ้วน ฝ่ายหนึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากตะวันตก อีกฝ่ายได้รับแรงสนับสนุนจากชนชาติอาหรับ และถึงแม้ว่าอิสราเอลจะตั้งรัฐอิสระได้สำเร็จตั้งแต่ปี 1948 แต่ปัญหาความขัดแย้งด้านดินแดนก็ยังคงคาราคาซังอยู่จนถึงทุกวันนี้ และยังไม่มีท่าทีว่าจะแก้ไขกันได้แบบสมบูรณ์เสร็จสรรพ

หญิงชาวปาเลสไตน์ท่านหนึ่งในหมู่บ้านทีี่ชื่อ Bilin ใกล้กับเมืองหลวงของปาเลสไตน์ (แม้จะไม่ได้เป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการแต่ชาวบ้านก็เข้าใจว่าเป็นเหมือนเมืองหลวง) ที่ชื่อ Ramallah หญิงท่านนี้ได้เก็บรวมรวมปลอกระเบิดแก๊สน้ำตาจากบริเวณปะทะระหว่างทหารอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์เพื่อนำมาปลูกดอกไม้!!

การปลูกดอกไม้ของหญิงท่านนี้ไม่ใช่การปลูกเพื่อเลี้ยงชีพ แต่เธอทำเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งในความเข้าใจของผมเข้าใจว่าคงอยากเห็นสันติภาพในเร็ววัน เหมือนกับดอกไม้ที่สามารถเติบโตได้ในปลอกแก๊สน้ำตาเช่นใด สันติภาพก็สามารถเกิดขึ้นได้ท่ามกลางสงครามเช่นนั้น

ในตอนแรกที่เห็นข่าวนี้ก็รู้สึกแปลกใจมากที่ได้เห็นว่าพื้นที่ที่มีความตึงเครียดสูง ความรู้สึกไม่ปลอดภัย มันจะสามารถปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์ในมนุษย์ได้จริงๆหรือ? เพราะปกติเรามักจะเห็นความคิดสร้างสรรค์โลดแล่นอยู่ภายใต้อารมณ์ที่สนุกสนาน อารมณ์เชิงบวก อารมณ์ที่ทำให้เรารู้สึกนิ่งอยู่กับปัจจุบัน แต่การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในครั้งนี้ทำให้เราต้องมองมุมใหม่ ซึ่งในอีกฟากฝั่งหนึ่งของปาเลสไตน์ มีศิลปินชาวอิสราเอลท่านหนึ่งได้หลอมเหล็กซึ่งได้จากซากจรวดที่ทางฝั่งปาเลสไตน์หัวรุนแรงได้ยิงเข้ามา

ความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้นได้ทุกที่จริงๆครับ

flower on tear gas granade2 flower on tear gas granade3 flower on tear gas granade4 flower on tear gas granade5 flower on tear gas granade6 flower on tear gas granade7 flower on tear gas granade8 flower on tear gas granade9 flower on tear gas granade10

source: http://www.boredpanda.com/tear-gas-flower-pots-palestine/

Tagged , , , , , ,

Monokini 2.0: Bikinis for the breast cancer survivors

monokini1

Monokini 2.0 เป็นโปรเจ็คการแสดงศิลปะชิ้นหนึ่งที่ต้องการชี้ให้เห็นถึงความคับแคบในการมองความงามของผู้หญิง สิ่งที่โปรเจ็คนี้ได้ทำคือการดีไซน์คอลเลคชั่นชุดว่ายน้ำแบบใหม่สำหรับผู้ที่สูญเสียหน้าอกจากการเป็นมะเร็งเต้านม โดยปกติถ้าเราเคยได้ดูตามทีวีก็มักจะเห็นโครงการเย็บฟองน้ำเสริมในยกทรงสำหรับผู้หญิงที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมเพื่อเสริมความมั่นใจ แต่สำหรับชุดว่ายน้ำคอลเลคชั่นนี้กลับถูกดีไซน์ให้เหมือนกับชุดว่ายน้ำปกติ เพราะมีผู้หญิงหลายคนที่ไม่ได้รู้สึกว่าการสูญเสียเต้านมจะทำให้พวกเขาสูญเสียความมั่นใจ พวกเขาพร้อมที่จะแสดงให้เห็นถึงว่ามันเป็นเรื่องที่ธรรมดา

สำหรับโปรเจ็คนี้ ได้รับเกียรติจากผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านมจริงๆมาถ่ายแบบพร้อมกับได้เดินแบบตามงานแฟชั่นเพื่อโปรโมทความงามในนิยามใหม่ ซึ่งคนต้นคิดโปรเจ็คนี้ก็คือ Elina Halttunen ผู้หญิงท่านหนึ่งที่สุูญเสียเต้านมหนึ่งข้างหนึ่งจากมะเร็งเต้านม

Monokini 2.0 is a social art project that re-examines popular culture’s narrow view of a woman’s ideal appearance. We strive to expand what is accepted and considered beautiful by designing a swimwear collection for women who have gone through breast cancer. Swimwear is conventionally designed for women who haven’t suffered a mastectomy. The fact is that many women who have had one breast removed due to breast cancer don’t wish to have breast reconstruction surgery, they wish to continue their lives with one or no breasts at all.

A group of Finnish fashion designers are designing a swimwear collection for Monokini 2.0. The swimwear collection is modeled by women who have gone through breast cancer. The collection will be also exhibited in a performative catwalk venue. The artistic director of Monokini 2.0 is the art duo Tärähtäneet ämmät / Nutty Tarts. The original idea is by Elina Halttunen (PhD), the woman with one tit.

read more: http://monokini2.com/

Monokini2 Monokini3 Monokini4 Monokini5

Tagged , , , , , , , ,

Peace One Day: Frozen Bullets

Frozen Bullets

ท่ามกลางการเรียกร้องสันติภาพจากทั่วทุกมุมโลก มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าวันที่ 21 เดือนกันยายนเป็นวันสันติภาพสากล บางคนไม่สนใจเพราะพวกเขาใช้ชีวิตสงบสุขมานานมากแล้ว แคมเปญจึงถูกจัดขึ้นเพื่อกระตุ้นเตือนให้ผู้คนเห็นความสำคัญของวันสันติภาพโลก

แคมเปญนี้จัดขึ้นที่ Shanghai Himalaya Art Center บนทางเดินยาวของหอศิลป์ตลอดระยะ 18 เมตร ถูกจัดวางด้วยลูกกระสุน 50,000 นัด เส้นด้ายสีดำอีกนับแสน สร้างบรรยากาศให้เรารู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางสมรภูมิรบ เราสามารถเดินเขาไปสัมผัสความรู้สึกได้จริงๆ ตรงทางออกมีข้อความบนป้ายว่า “พลังแห่งวันสันติภาพนี้จะช่วยหยุดยั้งห่ากระสุนนับหมื่นแสนได้ ขอเพียงแค่คุณเป็นส่วนหนึ่งที่สนใจมันจริงๆ” พร้อมกับ QR Code เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับเว็บไซท์

98% ของผู้เข้าชมงานบ่งชี้ว่าสามารถจำวัันสันติภาพโลกได้ แคมเปญนี้ถูกโปรโมทผ่านเว็บไซท์และสังคมออนไลน์ เข้าถึงผู้ชมชาวจีนได้ถึงกว่า 1 ล้าน 2 แสนคน คอมเมนท์นับพันบอกว่าเป็นประสบการณ์ที่สุดยอดและจะขอเข้าร่วมกิจกรรมสันติภาพสากลในอนาคต

โดยปกติแล้วงานศิลปะตามความคนเข้าใจของคนทั่วไปมักจะมองว่าเป็นเรื่องที่เข้าถึงยาก แต่สำหรับแคมเปญนี้แทบจะไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องสงคราม เรื่องชีวิตของผู้คนในอีกมุมโลกหนึ่งที่ต้องอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัว เป็นวิธีการสื่อสารที่ฉลาดและแสดงให้เห็นถึงความพยายามอย่างมหาศาล อยากให้มาจัดที่เมืองไทยบ้างจัง

Remind the Chinese September 21 is the peace day of the world. The power of the day could freeze bullets,your participation will make it stronger.

Advertising AgencyShineworks, Shanghai, China

Tagged , , , , , ,

Stiftung Artenschutz: #animachine

animachine

Endangered species regularly feature in social media. Their plight inspires plenty of sympathy and outrage but, sadly, likes and shares have little effect in the real world. How, we asked, could the digital community make a real difference to the Cat-Ba Langur, one of the world’s most endangered species? It often appears in Social Media. There are only 53 left.

To solve this problem McCann and MRM//McCANN created #animachine, a platform that actively engages digital supporters in creating statues of the animal they want to save. The statues are then auctioned and the proceeds donated to saving the Cat-Ba Langur.

To help rescue the Cat-Ba Langur from extinction, we created an entirely new way to donate, simply by sharing #animachine. But first, we engaged the passion and talent of world-renowned street artist, Sam3, to create a sculpture of the Cat-Ba Langur. Based on his design, our digital community co-created several copies. By simply posting #animachine in social media supporters triggered a 3D printer that recreated the endangered animal. One layer at a time. The statues were then auctioned off to raise money. Supporters could also follow the process at animachine.de and see who contributed each layer.

The engaging nature of the #animachine donation platform attracted crowds of supporters. They contributed the thousands of layers needed to build the statues. All of which helped grow awareness. And every cent raised on auction will help grow the Cat-Ba Langur population. #animachine let people reach out of the digital realm. And touch the real world. #animachine let people reach out of the digital realm. And touch the real world, which made hashtags literally count in real life.

Advertising AgencyMcCann, Germany

Tagged , , , , , , , , , , , ,

Papermate Liquid Paper: Right the Wrong

Web Web Web

Right the wrong with Papermate Liquid Paper.

Advertising Agency: TBWA Kuala Lumpur

Tagged , , , , , , ,

Quirky “Tiny Tattoos” Paired with Paralleled Landscapes

austin_tott1

Photographer Austin Tott pairs the small with the grandiose in his series Tiny Tattoos. The delightful images feature hand-drawn body art that’s positioned against a background from which they visually reference. In one photograph, we see a wrist that is marked with quotes in front of several stacks of books. Another dangles an abundance of vintage keys on strings with a hand reaching towards the one that’ll unlock the drawing on its arm. And in a beautiful play on scale, an inch-high tree has a backdrop of an entire forest.

Tott finds a way for every image to engage us by adding an illustrated touch. But the conceptual relationship in Tiny Tattoos is just part of the series’ charm. The photographer creates harmonious compositions when he combines the minuscule with massive, and something like an individualized bike is more engaging when its compared with a sprawling cityscape. This visual tension makes for images that are fun to view.

austin_tott2 austin_tott3 austin_tott4 austin_tott5 austin_tott6 austin_tott7 austin_tott8 austin_tott9

Read more at: http://www.mymodernmet.com/profiles/blogs/austin-tott-tiny-tattoos-photography

Tagged , , , , , ,