Nevada Resort Association Environmental Initiative: Light it Up

แคมเปญนี้จะออกแนววิทยาศาสตร์หน่อยนะครับ แล้วก็ขอดักไว้ก่อนว่าถ้าอยากจะดูเอาซึ้งๆหรือน้ำตาแตก แคมเปญนี้คงทำไม่ได้นะฮะ

เรื่องมันเกิดที่รัฐ Nevada สหรัฐอเมริกา ถ้าพูดถึงเรัฐ Nevada ปุ๊ป ภาพที่ตามมาก็คงจะเป็น Las Vegas มหานครที่ไม่เคยหลับไหลซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมความบันเทิงแบบครบวงจร ถึงขนาดมีคนบอกว่าถ้ามองจากนอกชั้นบรรยากาศ Las Vegas เป็นเมืองหนึ่งที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่ากันเลยทีเดียว

แต่ก็นั่นแหละครับ ความสว่างไสวทั้งวันทั้งคืนก็ต้องแลกมากับการบริโภคพลังงานอย่างมหาศาลถึง 146 เมกะวัตต์ต่อปี ถามว่ามากขนาดไหน ในวิดีโอเค้าเทียบว่ามากกว่าเกาะฮ่องกงใช้ทั้งปี 3.5 เท่า (ปี 2013)

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าหากเราผสมคาร์บอนไดออกไซด์กับ Fluid Electrolyte (รบกวนท่านที่มีความรู้อธิบายคร่าวๆหน่อยครับ) ก็จะเป็นอีกวิธีหนึ่งในการผลิตกระแสไฟฟ้าได้ แต่คำถามมันติดอยู่ตรงที่ว่าเราจะไปหาคาร์บอนไดออกไซด์ได้ที่ไหน

คำตอบคือ “บุหรี่ไงครับ”

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าเค้าอนุญาตให้สูบบุหรี่ภายในอาคารได้ ไม่ผิดกฎหมาย ทาง Nevada Resort Association จึงริเริ่มแคมเปญ Light it up ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ที่ดักจับควันบุหรี่เพื่อแปลงไปเป็นกระแสไฟฟ้า ซึ่งเค้าบอกว่าบุหรี่ที่ดูดหมดหนึ่งตัวจะให้พลังงานได้ 0.33 เมกะวัตต์ โดยในแต่ละวันจะมีคนสูบบุหรี่ใน Las Vegas ประมาณวันละ 950,000 ตัว นั่นเท่ากับว่าในหนึ่งปีเราจะสามารถผลิตไฟฟ้าจากบุหร่ได้ถึง 11.5 เมกะวัตต์กันเลยทีเดียว (ให้นึกภาพว่าใช้ 146 แต่แบ่งเบาไปได้ 11.5 นั่นเท่ากับว่าต้นทุนของการบริหารจัดการในเมืองนี้จะถูกลงเกือบ 10% ซึ่งในระระยาวถือว่าคุ้มมากๆ)

ก็ถือว่าเป็นแคมเปญแปลกๆที่ไม่ต้องไปจ้ำจี้จ้ำไชบอกว่า “บุหรี่ไม่ดีนะ” โจทย์ของแคมเปญนี้คือการใช้ประโยชน์จากคนที่สูบบุหรี่อยู่แล้ว นั่นเท่ากับว่าคนที่สูบบุหรี่เค้าแทบจะไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมเลย

อย่าเพิ่งเข้าใจผมผิด ว่าผมสนับสนุนให้สูบบุหรี่เพื่อไปผลิตกระแสไฟฟ้ากันนะครับ ไม่ใช่ว่าดูแคมเปญนี้จบแล้วก็ไปตะบี้ตะบันตะบันสูบ ควันมันคงไปไม่ถึง Las Vegas หรอกนะ

จริงๆแล้วก็น่าเอามาปรับใช้กับเมืองไทยดูมั่งนะ เพราะคนไทยก็สูบบุหรี่ก็ไม่น้อยเลย เพียงแต่ติดที่ว่าส่วนใหญ่เค้าห้ามสูบบุหรี่ในตัวอาคาร คงทำแบบในเคสนี้ไม่ได้ น่าคิดเหมือนกันว่าไหนๆเค้าก็สูบบุหรี่อยู่แล้ว เราจะสร้างประโยชน์จากคนกลุ่มนี้เพื่อเหตุผลทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมในวิธีอื่นๆได้หรือไม่

Advertising Agency: Miami Ad School, New York, USA

Tourism Biosphere Entlebuch: The Entlebuch Message

ไม่รู้ว่าแคมเปญนี้ตั้งใจจะสื่อแบบที่คิดจริงๆหรือเปล่า แต่สำหรับเรา เราว่ามันเพี้ยนแต่โคตรจริงจัง

คือเรื่องมันมีอยู่ว่า Entlebuch เขตภาคกลางของสวิตเซอร์แลนด์ที่เคยได้รับการขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ว่าเป็นสถานที่ที่มีทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรม เหมาะกับการท่องเที่ยว ซึ่งเขาการันตีว่าความสวยงามแบบนี้จะยังคงอยู่ตลอดไปนับ 5 แสนปีตามแนวทางการอนุรักษ์ของ UNESCO

คราวนี้ความพิเรนทร์จึงเกิดขึ้น เมื่อชาวเมือง Entlebuch เกิดอยากจะโปรโมทการท่องเที่ยว แต่ครั้งจะทำแบบธรรมดาก็คงจะเฉยๆเกินไป พี่แกเลยจัดการโปรโมทให้มนุษยูืต่างดาวมาเที่ยวบ้านเราครับ ใช่ครับ อ่านไม่ผิดครับ มนุษย์ต่างดาวครับ คือจริงจังขนาดขอยืมดาวเทียมเพื่อส่งสัญญาณวิทยุ ลองมาดูกันครับว่าสุดท้ายแล้วความเพี้ยนของแคมเปญนี้มันจะสุดติ่งได้หน้าตายมากแค่ไหน

It’s a world premiere: The universe’s first-ever extraterrestrial tourism program was launched on March 24 this year with an invitation for all living creatures in the cosmos to visit the UNESCO biosphere reserve in Entlebuch, between Berne and Lucerne in Switzerland. The invitation is being sent into the endless depths of the universe from the Astropeiler Stockert — a special radio telescope in, Germany. The 24 hour long message was sent by the inhabitants of the Entlebuch — a region of the Lucerne Canton: with this invitation they are reinforcing their pledge that they will preserve the unspoiled natural beauty of their home region for years to come. Accordingly, the people of Entlebuch need have no scruples about inviting guests who might take a little longer to arrive — whether they live just under 250 million kilometers away on Mars or possibly even in the Andromeda galaxy, approximately two million light years distant. This extraordinary campaign for the cosmos was devised by the Düsseldorf advertising agency BBDO Proximity.

The Entlebuch region of central Switzerland with the UNESCO biosphere reserve, which was declared a protected area in 2001, is a popular vacation destination for friends of the earth and for visitors who are simply in search of peace and quiet. The people of Entlebuch are known for their very gentle and sustainable approach to the conservation of nature and culture — and this includes tourism. As Theo Schnider, Director of the UNESCO Biosphere in Entlebuch, explains: “A UNESCO biosphere reserve is our guarantee that the beauty of our valley will be preserved — for 50, for 500 or even for 500,000 years! We are a model UNESCO region for sustainable and resource-conserving living and this development calls for long-term thinking.”

Advertising Agency: BBDO Proximity Düsseldorf.

Seub-Nakhasathien Foundation: The Virtual Fence Project

ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้สูญเสียพื้นที่ป่าไปมากกว่า 25% ป่าสงวนถูกบุกรุกเพื่อทำการเกษตร สร้างรีสอร์ทและสนามกอล์ฟ เนื่องจากไม่มีการปักปันเขตแดนที่ชัดเจนระหว่างพื้นที่ที่ถูกและผิดกฎหมาย

มูลนิธิสืบฯ องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมที่เรารู้จักกันดีมีแนวคิดว่าอยากจะสร้างบางสิ่งบางอย่างที่จะช่วยให้ผู้คนได้ตระหนักถึงปัญหาการบุกรุกพื้นที่ในเขตป่าสงวน พร้อมกับสร้างกลไกที่จะช่วยรักษาพื้นที่ป่าในระยะยาว

อย่างที่เรารู้กันครับ คนไทยติดมือถือ ไปกินข้าวก็ต้องถ่ายรูป ไปเที่ยวไหนก็ต้องเช็คอิน แคมเปญนี้จึงสร้างขึ้นเพื่อให้สองคล้องกับจริตคนไทย นี่จึงเป็นที่มาของ “The Virtual Fence Project” แคมเปญสร้างเขตกั้นสมมติที่ทำให้นักท่องเที่ยวรู้ว่าพื้นที่ไหนเข้าได้บ้าง ด้วยการส่งอาสาสมัครเข้าไปปักธงเช็คอินเป็นแนวยาวตลอดเขตป่าสงวนเพื่อคอยเตือนไม่ให้นักท่องเที่ยวบุกรุกพื้นที่ เรียกได้ว่าเป็นแคมเปญที่ฉลาดประยุกต์ใช้เทคโนโลยี โดยที่แทบจะไม่ต้องเสียงบประมาณเลย

แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ยังสงสัยว่า เวลาเข้าป่าคนเราจะมีกะจิตกะใจเล่นมือถือหรือเปล่า สมมติว่าเล่น พื้นที่แถวนั้นสัญญาณอินเตอร์เน็ตจะเข้าถึงมั้ย น่าคิดเหมือนกันนะครัช แต่โดยรวมแล้วเป็นโปรเจ็คที่น่าสนใจและใช้งบประมาณน้อยมาก ยังไงผมก็สนับสนุนโปรเจ็คดีๆแบบนี้ครับ

In the past 30 years, Thailand had lost more than a quarter of forest area. Protected forests were trespassed and turned into resorts, farms, and golf courses because the boundaries between “legal” and “illegal” were never clearly defined. Seub-Nakhasathien Foundation, Thailand most famous foundation to promote nature conservation, wants to find an easy way to enhance awareness and develop mechanisms to encourage active participation in the forest conservation. Since Thai tourists always check-in and share their location on their social network from their smartphones, CJ WORX Bangkok created THE VIRTUAL FENCE PROJECT, which allows us to virtually pin point borderlines and reclaim forest territories, using Foursquare to promote forest conservation with just a simple tap of a “check-in” button.

Advertising Agency: CJ WORX Bangkok

Paris’ Zoological Park: Animal Creates

The agency Ubi Bene has come up with a fun way to advertise for Paris’ Zoological Park, which will open on 12 April 2014.

The creatives placed open animal crates all around famous landmarks, creating the illusion that these animals are loose in the city. The opening date of the zoo was also printed on each crate.

Check out this fun installation below—if you would like to go to this zoo, you can purchase your tickets online here.

source: designtaxi

45 degree PIN-DOWN

Hammering pins into the ground for pitching the tent is a big hassle during camping. It can be difficult and dangerous. ’45 degree PIN-DOWN’ allows you to drive tent pins into the ground without the needing hammer. It uses a foot pedal and one’s whole body weight to make the task easier, safer, and more efficient. The pedal, which doubles up as the pin case, drives the light weight Titanium pins downward at a 45-degree angle.

Designers: Jeon Youngwon & Jeong Eunji

Source: YankoDesign

 

Kokopelli Backpackers Hostel Cuzco: Anti-Altitude Sickness Business Card

Peruvian creative duo Lanfranco & Cordova launch innovative project for their Peruvian client “Kokopelli Backpackers Hostel”. The team created the first anti-altitude sickness business card made of real coca leaf. The properties of the coca leaf have been used in Peru for centuries in order to prevent altitude sickness in a process known as “chakchado de coca” were a person places a coca leaf in its mouth and chews it releasing a substance that produces energy and relief the problematic symptoms. The business cards were made of coca leaf so guests could detach their correct doze and keep the contact details of the hostel with them.

Agency: Lanfranco & Cordova

360 FLY CAMERA CAPTURES LIFE IN ALL ANGLES

ลองจินตนาการโลกของเราในอนาคตดูสิครับ ไม่รู้ว่ามันจะมีหน้าตาแบบไหน อีก 50 ปีข้างหน้าอาจจะถึงวันสิ้นโลกไปเรียบร้อยแล้วหรือโลกของเราจะมีอุปกรณ์ล้ำๆเหมือนในหนัง Sci-Fi ไม่ว่าจะเรื่องไหนก็ล้วนเป็นไปได้ทั้งนั้น

แต่ลองย้อนกลับมาเรื่องที่เบสิคที่สุดของมนุษย์เรา เรื่องของ “ความทรงจำ” เรามีการจดบันทึกกันตั้งแต่สมัยยุคหิน ยุคที่มีกระดาษ ยุคที่มีแท่นพิมพ์ ยุคที่มีกล้องถ่ายรูป เรื่อยมาจนถึงยุคที่มีกล้องถ่ายวิดีโอ มนุษย์ไม่เคยหยุดบันทึกความทรงจำ ในทางกลับกันกลับพบว่าการบันทึกความทรงจำได้ทวีความเข้มข้นจนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในปัจจุบันเราคิดว่าเทคโนโลยีการถ่ายภาพแบบ 3 มิตินี่แหละ ที่ล้ำยุคและให้อรรถรสมากที่สุดแล้ว ผมคงต้องบอกตรงๆว่า “ไม่ใช่แล้วครับ”

EyeSee360 ํ บริษัททางด้านเทคโนโลยีซึ่งเน้นเรื่องการถ่ายภาพได้ออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ ซึ่งเป็นกล้องวิดีโอที่สามารถบันทึกภาพได้ 360 องศา!!! ให้ลองจิตนาการถึง Google Street View ดูครับ แต่ให้นึกภาพตามด้วยว่าภาพมันขยับได้!!

เชร็ดเข้! นี่มันโคตรพ่อโคตรแม่ของพาโนราม่าเลย! แค่นี้ก็ว่าเจ๋งแล้ว แต่ยังครับ พี่แกยังใส่ออพชั่นเพิ่มเข้าไป คือแม่งถ่ายใต้น้ำได้ไม่เกิน 5 เมตร ในกรณีที่เราอยากจะเก็บภาพโคตรพ่อโคตรแม่พาโนราม่าใต้ทะเลแบบเป็นวิดีโอ เชร็ดเข้! เชร็ดเข้! เชร็ดเข้!

ลองจิตนาการถึงในอนาคตอันใกล้สิครับ อีกหน่อยเราคงจะได้ดูหนังแบบรอบทิศ(และต้องทำเก้าอี้แบบหมุนได้)  ใครอยากดูมุมไหนก็เลือกเอา หรือในงานวันเกิดหรืองานปาร์ตี้ เราจะไม่พลาดการบันทึกความทรงจำแม้แต่เสี้ยวมุมเดียวของชีวิต

——————————————————————————————————————————————–

The 360 Fly Camera is like nothing you’ve ever seen before. It captures things even the human can’t see because it’s constantly taking video in 360 degree horizontal by 240 degree vertical–which makes it the widest viewing camera in the world. You can carry it, or mount it to tripods, helmets, or a bunch of other mounts. It’s also waterproof for up to 5 meters in case you want to take panoramas under the sea.

What does that mean for you? If you’re using Android or iOS you can share an interactive 360 degree experience for you and all your friends. From first steps to epic bike trips, and arctic explorations to urban safaris, the 360 Fly Camera has you covered.

source: http://coolmaterial.com/tech/360-fly-camera-captures-life-in-all-angles/

Brilliant Street Art From Italy By Fra.Biancoshock

“อย่าลองแบบนี้ที่บ้าน, ออกไปทำบนถนนดีกว่า” คำขวัญประจำจิตของ Fra.Biancoshock ศิลปินสตรีทอาร์ทที่เติบโตและสร้างสรรค์ผลงานในกรุงมิลาน ประเทศอิตาลี เขาบอกว่างานของเขาเป็นสไตล์ avant-garde art Ephemeralism ซึ่งแปลเป็นไทยแบบสั่วๆว่า “ศิลปะชั่วคราวแบบเปรี้ยวจี๊ด” (ขอขอบคุณ google translate และขออภัยถ้าหากแปลเสร่อเกินไป)

นอกเหนือจากอิตาลีแล้ว เขายังได้ไปสร้างผลงานในประเทศอื่นๆอีกไม่ว่าจะเป็นสเปน โปรตุเกส โครเอเชีย ฮังการี สาธารณรัฐเช็ค มาเลเซีย และสิงคโปร์ รวมแล้วมากกว่า 400 ชิ้น

ดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่: fra-biancoshock.org

————————————————————————————————————————————-

“Don’t try this at home. Try this on the street” – that’s the motto of Fra.Biancoshock, a street artist living and working in Milan, Italy. He calls his artistic avant-garde art Ephemeralism – a movement that produces works of art that exist briefly in space but limitlessly in time.

“It is based on the impermanence of an experience that demands to be carved into the observer‘s mind, even though it is no longer visible“, the artist explains.

Fra.Biancoshock has already produced more than 400 ephemeral works of art in the streets of Italy, Spain, Portugal, Croatia, Hungary, Czech Republic, Malaysia and Singapore. And he’s not ready to stop just yet.

Source: fra-biancoshock.org

original article: http://www.boredpanda.org/street-art-fra-biancoshock/

11 countries in 1 minute

Rick Mereki spent 44 days, traveling 38,000 miles, across 11 countries, just to film this one-minute video.

What do you say?